เมื่อวันที่ 18 ก.พ.65 นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าทั่วไป เอไอเอส กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ตรวจพบว่า มีผู้ละเมิดข้อมูลผู้ใช้บริการ ประมาณ 100,000 รายการ อันประกอบด้วย ชื่อ-นามสกุล, เลขบัตรประจำตัวประชาชน, วัน-เดือน-ปีเกิด, หมายเลขโทรศัพท์ โดยไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงินใดๆ และนำไปเผยแพร่อยู่บน Dark Web
หลังจากพบกรณีนี้ บริษัทฯ ก็ได้ร่วมกันกับผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์เร่งตรวจสอบหาสาเหตุอย่างเร่งด่วน พร้อมกับแจ้งไปยัง สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.)และ กสทช. รวมถึงแจ้งไปยังลูกค้ากลุ่มดังกล่าวผ่านทาง SMS เพื่อให้รับทราบและระมัดระวังต่อไป โดยกรณีดังกล่าว ไม่กระทบกับระบบรักษาความปลอดภัยและการดำเนินธุรกิจของบริษัท
จากการตรวจสอบสาเหตุในเบื้องต้นพบว่า กรณีนี้เกิดจากการถูกบุกรุกด้วย Ransomware เข้ามาที่เครื่องคอมพิวเตอร์ Stand Alone บางเครื่องของพนักงานที่ใช้ข้อมูลดังกล่าวในการปฏิบัติงานในช่วงระหว่างการ Work From Home และนำข้อมูลดังกล่าวออกไปเผยแพร่ ซึ่ง เอไอเอส ได้ดำเนินการตรวจสอบและให้พนักงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดปรับปรุงเวอร์ชันของซอฟต์แวร์ และระบบรักษาความปลอดภัยให้เป็นเวอร์ชันปัจจุบันเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้การให้บริการของบริษัทไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากเหตุการณ์ดังกล่าว
นายปรัธนา กล่าวต่อไปว่า บริษัทฯใคร่ขออภัยจากเหตุการณ์นี้ ที่อาจจะก่อให้เกิดความไม่สะดวกแก่ลูกค้า และขอเรียนแนะนำให้ลูกค้าเพิ่มความระมัดระวังในการทำธุรกรรมต่างๆ ที่ต้องใช้ข้อมูลดังกล่าว รวมถึงตรวจสอบเพิ่มเติมกรณีอาจมีผู้แอบอ้างในการติดต่อเพื่อขอข้อมูลและทำธุรกรรมใดๆ กับท่าน
“บริษัทฯ ในฐานะผู้ให้บริการโครงสร้างระบบสื่อสารของประเทศ เราให้ความสำคัญสูงสุดกับนโยบายด้านการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ตามมาตรฐานสากล และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้บริษัทฯกำลังเร่งตรวจสอบผู้ที่กระทำการดังกล่าว รวมถึงผู้ที่จะนำข้อมูลดังกล่าวไปเผยแพร่ต่อ เพื่อดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป”
ขอขอบคุณข้อมูลจาก news.ch7