ภัยไซเบอร์ยังคงระบาดไม่หยุด! ล่าสุด “หนุ่ย พงศ์สุข” เจ้าพ่อไอทีของไทย เจอเหตุโดนแฮกบัตรเครดิต มี SMS แจ้งว่าบัตรถูกนำไปใช้รูดซื้อสินค้าที่ Apple Store ประเทศญี่ปุ่น
ตัวอย่างเคส : หนุ่ย พงศ์สุข
เคสที่หนุ่ย พงศ์สุขถูกแฮกบัตรเครดิตจากธนาคารหนึ่ง ซึ่งมีระบบ Fraud Detection ติดต่อมาทันที และทำการระงับบัตรได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาติดต่อธนาคารนาน
วันนี้ MIS News จะมาแชร์วิธี 5 สิ่งที่ต้องทำเบื้องต้นหลังโดนมิจฉาชีพแฮกบัตรเครดิตค่ะ
1. รีบโทรอายัดบัตร
ติดต่อ Call Center ธนาคารทันที แจ้งเหตุการณ์ และขอ “อายัดบัตร” เพื่อหยุดความเสียหายทันที
2. ยื่นเรื่องปฏิเสธยอด
เมื่อได้รับใบแจ้งหนี้ ให้ยื่นขอ “ปฏิเสธยอดค่าใช้จ่าย” ที่ไม่ใช่ของคุณ เพื่อให้ธนาคารเริ่มกระบวนการตรวจสอบ
3. เคลียร์ยอดค้างชำระ
หากมียอดอื่นที่คุณใช้จริงในใบแจ้งหนี้เดียวกัน ให้แจ้งธนาคารเพื่อ “พักยอดที่มีปัญหา” และชำระเฉพาะส่วนที่คุณใช้จริง
4. ติดตามผลและขอเปิดบัตรใหม่
รอธนาคารตรวจสอบ (ประมาณ 30 วัน) เมื่อเคลียร์ยอดหนี้ที่ถูกแฮกเรียบร้อยแล้ว ค่อยขอเปิดบัตรใหม่
5. ตั้งค่าป้องกัน
สำหรับบัตรใหม่ ควรตั้งรหัสผ่านที่เดายาก จำกัดวงเงินให้เหมาะสม และเปิดการแจ้งเตือนทุกครั้งที่มีการใช้จ่าย
Fraud Detection คืออะไร?
Fraud Detection คือกระบวนการใช้เทคโนโลยีในการระบุ ตรวจจับ และป้องกันการฉ้อโกงในธุรกรรมออนไลน์หรือกิจกรรมต่าง ๆ โดยมีหน้าที่หลักในการตรวจจับธุรกรรมที่ผิดปกติ เพื่อลดความเสียหายทางการเงินและปกป้องชื่อเสียงของธุรกิจ
ในอดีต การตรวจจับการฉ้อโกงต้องอาศัยการตรวจสอบจากคน ซึ่งเป็นกระบวนการช้าและมีโอกาสผิดพลาดสูง แต่ในปัจจุบันที่ข้อมูลมหาศาล (Big Data) การใช้ AI มาเสริมการตรวจจับทำให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้เร็ว และแม่นยำมากขึ้น ช่วยลดการสูญเสียรวมถึงช่วยธุรกิจป้องกันการฉ้อโกงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สุดท้ายในยุคที่ภัยไซเบอร์คุกคามทุกด้าน การตั้งสติ และทำตามขั้นตอนที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ การรู้เท่าทันภัยคุกคามถือเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุดในยุคดิจิทัลนี้ค่ะ
ขอบคุณที่มาจาก : ncb, kasikorngloballpayment