MIS News (ฉบับที่ 205) อย่ามองข้าม! เปิด Bluetooth ทิ้งไว้อาจเสี่ยงโดนแฮกโดยไม่รู้ตัว

1. Bluejacking (การส่งข้อความรบกวน)
แฮกเกอร์ส่งข้อความหรือโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาตไปยังอุปกรณ์ที่เปิด Bluetooth ไว้ในโหมดค้นหา มักไม่อันตรายแต่สร้างความรำคาญ และอาจนำไปสู่ฟิชชิงหรือมัลแวร์ได้

2. Bluesnarfing (ขโมยข้อมูล)
แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลในอุปกรณ์ เช่น รายชื่อ ข้อความ อีเมล ไฟล์ โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นการโจมตีที่อันตราย เสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูลสำคัญ

3. Bluebugging (ควบคุมอุปกรณ์ระยะไกล)
แฮกเกอร์สามารถควบคุมอุปกรณ์ได้ เช่น โทรออก ส่งข้อความ หรือสอดแนม อันตรายกว่า Bluesnarfing เพราะเข้าถึงและควบคุมอุปกรณ์ได้จริง

4. Man-in-the-Middle (MITM)
แฮกเกอร์ดักจับข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ 2 เครื่องที่เชื่อมต่อกันผ่าน Bluetooth เสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่าน หรือสื่อสารปลอมแปลง

5. BlueBorne (ควบคุมอุปกรณ์โดยไม่ต้องจับคู่)
ช่องโหว่ที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์ควบคุมอุปกรณ์แม้จะไม่ได้จับคู่ Bluetooth มีความเสี่ยงมาก เพราะใช้เพียงแค่ระยะใกล้ และสามารถแพร่มัลแวร์ได้ทั้งระบบเครือข่าย

6. Bluetooth Device Impersonation (ปลอมเป็นอุปกรณ์ที่เชื่อถือได้)
แฮกเกอร์ปลอมเป็นอุปกรณ์ที่รู้จักเพื่อหลอกให้เชื่อมต่อ เสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูลหรือถูกติดมัลแวร์

7. Outdated Bluetooth Protocols (โปรโตคอลเก่า ไม่ปลอดภัย)
อุปกรณ์ที่ใช้ Bluetooth เวอร์ชันเก่า (เช่น 1.x, 2.x) มีการเข้ารหัสอ่อนแอ เสี่ยงต่อการถูกโจมตี เช่น bluesnarfing และ MITM

วิธีป้องกันง่ายๆ
1. ปิด Bluetooth ทันทีเมื่อไม่ได้ใช้งาน
2. หลีกเลี่ยงการจับคู่อุปกรณ์ในที่สาธารณะ
3. อัปเดตระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชันสม่ำเสมอ
4. ตรวจสอบชื่ออุปกรณ์ก่อนกดเชื่อมต่อทุกครั้ง
5. อย่ารับการเชื่อมต่อจากอุปกรณ์ที่ไม่รู้จัก

อย่าปล่อยให้ความสะดวกกลายเป็นจุดอ่อนของคุณ รู้เท่าทันเทคโนโลยี ป้องกันก่อนที่จะสายเกินไปนะคะ