“Waste to Energy” การนำขยะมูลฝอยจากครัวเรือน ชุมชน ตลอดจนโรงงานอุตสาหกรรม กลับมาแปรรูปด้วยเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อให้ได้พลังงานที่อาจอยู่ในรูปพลังงานไฟฟ้า พลังงานความร้อน ก๊าซชีวภาพ น้ำมัน รวมถึงเชื้อเพลิงอื่นๆ ซึ่งสามารถใช้ทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลได้ โดยเฉพาะขยะตามบ้านเรือน หรือกิจการต่างๆ ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่มีศักยภาพสูงจากมวลชีวภาพเช่น กระดาษ เศษอาหาร และไม้ เป็นต้น
โดยแต่ละเทคโนโลยีสามารถแปรรูปพลังงานออกมาต่างกัน ทั้งในรูปพลังงานความร้อน พลังงานไฟฟ้า และพลังงานในรูปเชื้อเพลิง ดังนั้น การแยกขยะจากชุมชน บ้านเรือน จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยให้ประเทศไทยลดขยะที่มีอยู่ได้อย่างมาก และช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่ประเทศไทยอีกทางหนึ่งด้วย
Waste to Energy เหมาะกับขยะชนิดไหน?
ขยะหลากหลายชนิดที่เกิดจากการใช้ชีวิตประจำวันของเรานั้น สามารถนำกลับมาผลิตเป็นพลังงานได้ โดยแบ่งกลุ่มได้ ดังนี้
- ขยะที่ย่อยสลายได้ในธรรมชาติ เช่น เศษอาหาร เศษผักผลไม้ ซากพืช รวมถึงวัสดุเหลือทิ้งจากการเกษตร ซึ่งอาจนำไปหมักเพื่อผลิตก๊าซชีวภาพ
- ขยะที่เผาไหม้ได้ โดยขยะกลุ่มนี้อาจใช้ระยะเวลานานในการย่อยสลาย หรือไม่สามารถย่อยสลายได้เลย เช่น ไม้ กระดาษ พลาสติก และยาง ซึ่งสามารถนำไปเผาเป็นพลังงาน
- ขยะอื่นๆ เช่น ขยะที่ขุดจากบ่อฝังกลบ ตะกอนน้ำเสีย ฯลฯ สามารถนำกลับมาแปรรูปเป็นพลังงานด้วยเทคโนโลยีอันเหมาะสมเช่นกัน
ข้อดีของเทคโนโลยี Waste-to-energy
- นำขยะกลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประโยชน์
- ลดปริมาณขยะ และกำจัดขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
- ได้รับพลังงานสะอาด เพื่อความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักข่าวไทยรัฐ