วันศุกร์, 2 พฤษภาคม 2568

MIS News (ฉบับที่ 126) เคล็ดลับการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลไม่ให้รั่วไหลถึงมือมิจฉาชีพ

10 พ.ค. 2024

ในทุกวันนี้หลายคนคงทราบกันดีว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของเราคืออะไร และทำไมถึงถูกนำไปใช้โดยที่เราไม่รู้ตัว ดังนั้น การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก

วันนี้ MIS News จะพาพี่น้องชาวเอเพ็กซ์ฯ ทุกคน ไปความทำรู้จักกับเคล็ดลับการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลไม่ให้รั่วไหล เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นมีอะไรบ้าง ตามไปดูกันได้เลยค่ะ

ข้อมูลส่วนบุคคลหลุดไปได้อย่างไร
1. จากตัวผู้ใช้เอง ด้วยการโพสต์ข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ลงบนสื่อสังคมออนไลน์
2. จากเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันต่างๆ ที่เราเข้าไปใช้บริการ โดยเรากดตกลงให้ความยินยอมในการให้ข้อมูลเอง โดยไม่ได้อ่านรายละเอียด
3. จากการโดนแฮกหรือเจาะขโมยข้อมูลในบริษัทที่เราให้ข้อมูล แม้ว่าในเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน จะระบุว่ามีจะเก็บรักษาข้อมูลไว้เป็นความลับ แต่หากไม่มีระบบความมั่นคงปลอดภัยที่ดีพออาจเกิดการรั่วไหลของข้อมูลได้
4. จากการหลอกลวงด้วยวิธีการต่างๆ ทั้ง Phishing หลอกให้กรอกข้อมูลส่วนตัวในเว็บไซต์ปลอม โดยส่งมาทางอีเมลหรือลิงก์ต่างๆ หลอกขอข้อมูลบัตรเครดิต หลอกขอสำเนาบัตรประชาชน

ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
1. ถูกนำไปในทางผิดกฎหมาย เช่น เลขที่บัตรประชาชนถูกนำไปใช้ในการเปิดบัญชีเพื่อฉ้อโกงผู้อื่น
2. โดนโจรกรรมทางการเงิน เช่น ใช้บัตรเครดิตรูดซื้อสินค้า ถูกโอนเงินจากบัญชีธนาคาร
3. ถูกนำไปทำการตลาด ทำให้เราถูกรบกวนด้วยโฆษณาขายสินค้าและบริการต่างๆ
4. ถูกปลอมแปลงตัวตน เอาไปแอบอ้างทำเรื่องที่เสียหายหรือผิดกฎหมาย

เคล็ดลับการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลไม่ให้รั่วไหลถึงมือมิจฉาชีพ
1. ไม่โพสต์ข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆ ที่สำคัญในอินเทอร์เน็ต
2. ตั้งค่าความเป็นส่วนตัวในบัญชีออนไลน์ต่างๆ เพื่อจำกัดผู้อ่านหรือนำข้อมูลไปใช้
3. ตั้งค่าและดูแลรหัสผ่านให้มั่นคงปลอดภัย ไม่ตั้งรหัสที่คาดเดาง่าย หรือเปิดใช้งานการล็อกอินแบบหลายชั้น
4. ระมัดระวังอีเมลหรือลิงก์หลอกลวงให้กรอกข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆ หากไม่แน่ใจให้ติดต่อสอบถามกลับไปยังสถาบันการเงินหรือเว็บไซต์ที่ส่งมาหาโดยตรง
5. ไม่ทำธุรกรรมกับเว็บไซต์หรือบุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือ
6. ไม่ผูกบัตรเครดิตหรือบัญชีออนไลน์เป็นการถาวร และควรขอให้มีบริการแจ้งเตือนทุกครั้งที่มีการจ่ายเงินหรือใช้บัญชี

ถ้าข้อมูลส่วนบุคคลถูกขโมยไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย หากเป็นบัญชีธนาคารให้ติดต่อธนาคารโดยด่วน หรือบัญชีสังคมออนไลน์ให้รายงานผู้ให้บริการ จากนั้นเก็บรวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปแจ้งความดำเนินคดีค่ะ

ขอบคุณที่มาจาก : สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์